EP1 วีโคพาเที่ยวสุราษฎร์ธานี เกาะสมุย หมู่เกาะอ่างทอง
ไม่ได้มาขายโปรแกรมทัวร์นะครับ แต่จะพาไปเที่ยวกันกับโปรเจค กรุงเทพ-เมืองสุราษฎร์ธานี -เกาะสมุย-หมู่เกาะอ่างทอง-เขื่อนรัชชประภา โค้ดลับ วีโคแอดเกาะสมุย (VEKO@KohSamui)
เริ่มจากสนามบินดอนเมืองช่วงสงกรานต์ เราเดินทางด้วยเครื่องบิน(JET)จาก กรุงเทพดอนเมือง ไปลงที่สนามบินสุราษฎร์ธานี จากนั้นเราก็ต่อรถบัสจากสนามบินเข้าสู่อำเภอเมือง เที่ยวตลาดรอบดึกเมืองสุราษฎร์ รุ่งเช้าเราเดินทางต่อไปท่าเรือเพื่อข้ามไปเกาะสมุย (หลับปุ๋ยทุกราย) ต้องมีคำคล้องจองหน่อย เหมือนกับ เกาะเสม็ด เสร็จทุกราย ฮาา เดินทางจากแผ่นดินมุ่งหน้าสู่เกาะสมุยด้วยเรือขนาดใหญ่ซึ่งมีคนน้อย เพราะในช่วงนั้นโควิดเพิ่งระบาดรอบใหม่ คนเลยลดน้อยลงแต่ยังไม่ได้มีการปิดเมือง มีการให้ลงทะเบียนออนไลน์ผ่านลิงค์ QR Code ว่าเราเดินทางจากที่ไหนเพื่อไปขึ้นเกาะสมุยกัน
เอาตามตรงเกาะสมุยไม่เคยมาเพราะไกลมากนะครับ แต่ฟังจากชื่อแล้ว เกาะ-สมุย น่าจะมีต้นมะพร้าวเยอะ หรืออาจจะมีลิงเยอะแปรผันตามต้นมะพร้าวก็เป็นได้ รู้ว่ามีสนามบินบนเกาะสมุย แต่มีสายการบินเดียวคือ Bangkok airway แต่เราเดินทางมาด้วยสายการบิน Air Asia เพราะได้เที่ยวเมืองสุราษฎร์ธานี และ เขื่อนรัชประภา (ชื่อเดิมคือเขื่อนเชี่ยวหลาน) ตอนขากลับกัน
เอาละถึงเวลาบุกเกาะสมุยกันละ สงสัยจะดูหนังสงครามบ่อย เมื่อถึงเกาะก็เจอด่านลงทะเบียนก่อน คนมาจอแจติดกันเป็นแถวยาวเพื่อลงทะเบียนขึ้นเกาะสมุย แต่สำหรับเรานั้นไม่ต้องรอนานเพราะลงทะเบียนออนไลน์มาก่อน ช่างวางแผนไว้ดียิ่งนักเชียว เดินผ่านฝูงชนเหมือนช่องทางด่วนพิเศษ (Super VIP )แต่ก็มีติดบ้างประปรายเนื่องจากคนมาออกันเต็มไปหมดหน้าด่านทางเข้าเกาะสมุย จากนั้นก็เดินทางต่อด้วยรถไปถึงโรงแรมกัน วันนี้เที่ยวเล่นใกล้ๆกันก่อน มองหารถเช่า กะจะลองมอเตอร์ไซต์เช่าแต่ขี่ไม่เป็น ถามร้าน ถามเจ้าของ ถามเจ๊ ไม่แนะนำสักคน บอกว่ามีคนขี่มอเตอร์ไซต์แล้วเกิดอุบัติเหตุตาย!!! -_- ! สรุปเราเช่ารถเก๋งขับละกัน ได้รถมาสด้า3 มาเป็นเพื่อนคู่ใจ เดินทางท่องเที่ยวทั่วเกาะสมุย พรุ่งนี้เจอกันนะเกาะสมุย วันนี้พักผ่อนเดินเล่นดูวิวโรงแรม สระว่ายน้ำ และชายหาดกันไปพลางๆก่อน
รุ่งเช้ารถมาส่งถึงหน้าโรงแรม ไปไหนกันดี จัดวางแผนกันปุ๊บแป๊บใช้ GPS ให้เป็นประโยชน์ โอ้ เข้าวัดไหว้พระกันก่อนดีกว่าเพื่อความเป็นสิริมงคลและคุ้มครองให้เดินทางท่องเที่ยวแคล้วคลาดปลอดภัยตลอดทั้งทริป จากนั้นก็ไปน้ำตก ต้องเดินเท้าต่อเข้าไปอีกหน่อยก็จะเจอ น้ำตกหน้าเมือง มีการผจญภัยเล็กน้อยน้ำตกไม่ใหญ่และอลังการเหมือนกับน้ำตกที่เขาใหญ่ แต่ก็มีดีเฉพาะของน้ำตกเกาะสมุยเหมือนกัน ไม่มาไม่ได้นะ เพราะจะอดดูนั้นเอง ฮาา
ต่อจากน้ำตกก็ไปศาลเจ้ากวนอูที่ขึ้นชื่อของเกาะสมุย เพราะมีรูปปั้นกวนอูที่มีขนาดใหญ่สุดในประเทศไทย อูหู้มีที่สุดด้วย ต้องไปชมกันครับ เดินดูศาลเจ้ากวนอูที่เป็นศาลเจ้าเก่าแก่และมีการปรับปรุงใหม่ มีความร่วมสมัย(contemporary)สวยงามดี ที่นี่ท่านจะได้ซึมซับบรรยากาศความคลาสสิคของนิยายสามก๊กที่ถ่ายทอดผ่านตัวละครที่สำคัญคือ เทพเจ้ากวนอูองค์ใหญ่โตมโหฬาร ที่จัดสร้างมาด้วยพลังจิตศรัทธาของชุมชน ที่เป็นที่เที่ยวที่นึงที่ควรไปสัมผัสกันนะครับ
จากนั้นก็ขับรถไปชมวิวทิวทัศน์บริเวณหินตาหินยาย ที่เลื่องชื่อ หลายท่านสงสัยว่าทำไมชื่อหินตาหินยาย อยากรู้ไหมครับ ลองไปเที่ยวเองดีกว่า ฮาาา ได้ของอร่อยคือ กาละแมของฝากจากเกาะสมุย ชิมแล้วอร่อยดีนะ มีแบบกาละแมร้อนๆใส่งาเยอะๆ เคี้ยวหนุบหนับมีความมันของงาและความหวานหอมอร่อยของกาละแมด้วย ได้ลองชิมสองร้าน ความต่างคือความหวาน ร้านนึงหวานกว่าอีกร้านนึง อาจจะเป็นคนขายก็ได้ร้านป้าจะหวานกว่าร้านสาวๆ เพราะไรรู้ไหมนะครับไม่รู้เหมือนกัน ฮาา
หลังจากนั้นเราก็ขับรถวนรอบเกาะครบรอบพอดี ฟ้าก็มืดไม่ได้ไปเดินตลาดดังๆต่างๆเนื่องจากตลาดไม่ค่อยมีคนและไม่ค่อยมีร้านเปิดกัน เป็นอันว่าวันนี้จบทริปรอบเกาะสมุยได้เที่ยวทั่วเลยทีเดียว โอเย้ แต่เดี๋ยวก่อนรอติดตามวันไปเที่ยวหมู่เกาะอ่างทองกันดีกว่า ไฮไลต์เด็ดสุดของทริปคือ ปีนเขาชม สุดยอดวิวหมู่เกาะอ่างทอง โอ้วววมาถึงแต่อาจขึ้นไปไม่ถึงเพราะทั้งชันทั้งสูงทั้งแดดร้อน โอ้แม่เจ้าาา… นอนก่อนเกริ่นยาวไปละครับ
ชื่อตอน… วีโคแอดหมู่เกาะอ่างทอง (VEKO@MuKohAngT้hong) วันรุ่งขึ้นเราจะเดินทางด้วยสปีดโบ๊ทเหมาลำแบบพิเศษส่วนตัว (Exclusive) ที่มีนักท่องเที่ยวท่านอื่นเต็มลำ รอบนี้มีต่างชาติเยอะเชียว เสียงซ้ายเสียงขวาเป็นแบบสเตริโอซาวแทร็ก ( Soundtrack ) แต่ไกด์ก็ไม่ธรรมดานะครับมีการบรรยายถึงสองภาษา ดีที่ไม่มีพี่จีนอีกจะได้สามภาษากันไปเลยทีเดียว เป็นทริปที่ดูอินเตอร์มากๆครับ มีรถตู้มารับถึงหน้าโรงแรมไปที่ท่าเรือสปีดโบ้ท มีการถ่ายภาพหมู่ทำประกันชีวิตการท่องเที่ยวแบบรวดเร็ว เราต้องเดินทางในทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาลบุกหมู่เกาะอ่างทองตลอดทั้งวันกันเลยทีเดียวเชียวละ
หมู่เกาะอ่างทองในสารานุกรมวีโค ตอนยังไม่ได้ไปสัมผัสเหมือนจำได้ว่ามีภาพจากมุมไม่สูงมากเห็นวิวที่สวยมากๆๆ แบบ unseen in Thailand รอบนี้คิดว่าจะได้ไปดูกัน แต่อย่างอื่นไม่รู้เลยนะขอบอก เพราะเพิ่งเคยไปการบงการบ้านไม่ได้ทำเลย เพราะมีไกด์พาไปเที่ยว สบายเห็นๆ
เราเริ่มเดินทางจากท่าเรือไปหมู่เกาะอ่างทองกัน ในระหว่างที่เดินทางก็ชมวิวเกาะต่างๆ ไปหน้าตาเกาะเหมือนตัวนั้น ตัวนี้แล้วแต่จะจินตนาการกันไป แต่ลืมบอกไปว่าทริปนี้มีดำน้ำดูปะการังกันด้วยนะครับ หลังจากห่างหายไปนาน จากประสบการณ์ ดูฉลามหมู่เกาะสุรินทร์ ดำน้ำดูปะการังเกาะเต่า ดูปลิงทะเลเกาะนางยวน เยอะแยะครับอย่าให้โม้ กับมาเข้าเรื่องต่อ เรือพาเราไปถึง… ที่ไหนหว่า แล้วก็กระโดดลงน้ำตรูม… ดูปะการัง มีแบบเดินไปเข้าถ้ำเล็กๆเพื่อสำรวจด้วย ปะการังสวยใช่ได้นะ แต่ดูได้ไม่นานก็ไปกันต่อ เหมือนที่หมายต่อไปจะชื่อว่า ทะเลใน อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง เป็นที่เที่ยวสุดฮิตอีกที่แบบว่ามาที่นี้ก็ต้องมาดูกัน
“ทะเลใน” คือ แอ่งน้ำมรกตสีเขียวสดใสซึ่งโอบล้อมไปด้วยเทือกเขาธรรมชาติสีเขียวขจี มีอุโมงค์เชื่อมต่อกับท้องทะเลภายนอกที่อยู่ใต้น้ำ อีกทั้งหาดทรายขาวบริสุทธิ์ น้ำทะเลใสสะอาด อยู่ในบริเวณของ เกาะแม่เกาะ เป็นความสวยงามตามธรรมชาติ ที่เกิดจากแอ่งหินปูนยุบตัวลงในทะเล เป็นรูปทรงวงรี กว้างกว่า 250 เมตร ยาว 350 เมตร และลึก 7 เมตร มีเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่
เรามาที่นี่ก็ต้องเดินขึ้นบันไดเพื่อไปชมทะเลใน เดินขึ้นไม่สูงมากก็ถึงจุดชมวิวสวยดี เป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวมาหมู่เกาะอ่างทองต้องแวะมาถ่ายรูปเป็นความทรงจำและความประทับใจไปอีกนานแสนนาน
จากนั้นเราก็ไปที่ต่อไปกันที่ จุดชมวิวผาจันทร์จรัส อยู่บนเกาะวัวตาหลับ ซึ่งเป็นที่ทำการของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง เป็นจุดชมวิวที่วีโคคิดว่าสวยที่สุดแล้วว ที่เห็นตามเว็บท่องเที่ยวต่างๆก็ต้องมีที่นี่ แต่ๆๆที่ไม่รู้คือมันต้องขึ้นเขาชันมากๆกว่าจะไปถึงจุดสูงสุง โอ้วแม่เจ้าชันมากมาย เหนื่อยสุดๆ ตอนแรกคิดว่าจะไปไม่ถึงด้วยความชันมากๆ แดดร้อนมากๆ ยิ่งขึ้นสูงต้นไม้บังแดดยิ่งไม่มี เส้นทางเหมือนปีนเขาไม่ได้ราบเรียบเล้ย มีจุดแวะพักหลายจุดที่ไม่มีที่นั่ง ต้องนั่งที่ทางขึ้นซึ่งก็นั่งไม่สบาย แต่วีโคก็ไปถึงจนได้ ฮา ฮา ฮ่า จุดชมวิวผาจันทร์จรัสจุดสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 550 เมตร ตอนขาลงมีลิงค่างหางยาวแวะมาทักทายแบบระยะเหนือหัวประชิด ถือว่าเป็นไฮไลต์สุดๆเพราะบางท่านมาก็ใช่ว่าจะเจอะเจอ แถมลิงฉี่ลงมาอีก เอาเข้าไปจะถูกหวยก็คราวนี้ละ ฮาา ถือว่าเป็นประสบการณ์เหนื่อยมากๆอีกครั้ง ที่ตอนแรกคิดว่าไปไม่ถึงแล้ว มีคนแซงเราไปข้างหน้า มีคนที่เราแซง มีคนที่หยุดระหว่างทาง แต่สุดท้ายวีโคก็ไปถึงจุดสูงสุดผาจันทร์จรัส ตบมือกันหน่อยเร็วรัวรัว…
“ผาจันทร์จรัส” ตั้งอยู่บนเกาะวัวตาหลับ สามารถเดินขึ้นสู่จุดชมวิวบนยอดเขา ระยะทางโดยประมาณ 500 เมตร จะพบกับทัศนียภาพงดงามรอบๆเกาะ สามารถมองเห็นรูปร่างลักษณะต่างๆของหมู่เกาะอ่างทองที่ทอดตัวยาวเรียงรายบนพื้นน้ำทะเลอย่างสวยงามและเป็นธรรมชาติ
หลังจากลงมาก็ดื่มน้ำกันยกใหญ่พักได้สักพักก็ไปกันต่อ เราจะไปรับประทานอาหารกลางวันกันที่เกาะสามเส้าและพายเรือคายัค ก็ถือว่าเป็นความสนุกอีกแบบได้พายเรือล่องไปในทะเล ชมวิวทิวทัศน์สวยงาม มีพายเรือรอดช่องเขา ก่อนจะมาขึ้นเรือกลับเกาะสมุยกันเป็นอันจบทริปหมู่เกาะอ่างทอง เก็บไว้ซึ่งภาพที่เราเห็นด้วยตา อากาศที่เราสูดด้วยปอด ความรู้สึกที่เราสัมผัสด้วยใจ และประสบการณ์จากกิจกรรมต่างๆที่นำมาซึ่งความทรงจำความประทับใจที่เก็บกลับมาด้วยภาพถ่าย และวีดีโอที่ถ่ายด้วยกล้อง Gopro9 ครั้งแรก ถ่ายแบบงงๆ (ชมตอน รีวิวกล้อง Gopro9 )
วันรุ่งขึ้น วันนี้ตามแผนคือเราต้องเดินทางกลับไปที่สนามบินสุราษฎร์ธานี เพื่อไปเช่ารถรอบนี้ขับ yaris รถค่อนข้างใหม่จะหนึบๆหน่อย เดินทางขึ้นเขาเข้าป่ามีหลงทางบ้างนิดหน่อย เริ่มจากถนนคอนกรีต จนไปถึงถนนลูกรัง สองข้างทางเป็นสวนยาง สุดยอดจริงๆเข้าไปได้ไงนิ… หลงวนไปมาอยู่หลายรอบ โทรถามเจ้าหน้าที่อธิบายแบบง่ายมาก แต่ไม่เข้าใจหลงป่าสวนยางอยู่หลายรอบดีที่ไปถึง… จุดหมายปลายทางที่วีโคจะพาไปคือ ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด (วีโค@ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด) ที่เที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงไปเล่นน้ำแล้วเสมือนว่าเราไปเล่นน้ำในตู้ปลาด้วยน้ำที่ใสและเย็นเห็นปลาว่ายไปมาอีกด้วย
“ป่าต้นน้ำ บ้านน้ำราด” แหล่งท่องเที่ยวชุมชน ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านทำเนียบ อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี การเดินทางจากถนนหลัก กิโลเมตรที่ 44 เข้ามาระยะทางโดยประมาณ 10 กิโลเมตรกว่า เราจะได้พบกับต้นน้ำลำธารที่เกิดจากธรรมชาติ น้ำเย็นและใสมาก
แน่กันจริงๆกล้าไปกันได้แต่ต้องทำเวลา เล่นน้ำเสร็จ อย่ามืดต้องออกจากป่าให้ทันเพื่อเดินทางต่อไปยังที่พักใกล้ๆเขื่อนรัชชประภา ตอนไปถึงพระอาทิตย์กำลังตกดิน วีโคขับรถขึ้นเขาเพื่อชมพระอาทิตย์ตกดินที่เขาสกได้ทัน เยี่ยมเลยครับ
เขื่อนรัชชประภา เป็นเขื่อนหินถมแกนดินเหนียว สูง 94 เมตร ความยาวสันเขื่อน 761 เมตร สร้างปิดกั้นลำน้ำคลองแสง ที่บ้านเชี่ยวหลาน อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ติดอุทยานแห่งชาติเขาสก
เขื่อนรัชชประภา เคยมาครั้งนึงตอนสมัยเรียนวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มากับภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้ามาดูระบบการสร้างพลังงานไฟฟ้าจากเขื่อนรัชชประภา รอบนั้นแบบมาศึกษาหาความรู้ ดูภายในเขื่อนมีคนนำชมและอธิบายระบบการสร้างพลังงานไฟฟ้าจากเขื่อน แต่รอบนี้เรามาเน้นเที่ยวเป็นหลักครับผม
วันรุ่งขึ้นเราก็มาที่สันเขื่อนเพื่อชมวิวทิวทัศน์อีกครั้งนึง เดินเล่นบริเวณพื้นที่เขื่อนรัชประภาแล้วกลับสนามบินสุราษฎร์ธานี แต่เดี๋ยวก่อน ก่อนกลับได้แวะวัดสวนโมกข์ หลงทางอยู่ ณ ลานหินโค้ง ภายในวัดนานพอควร ได้มีโอกาสพูดคุยกับพระสงฆ์ที่จำพรรษาอยู่ที่นั้น และได้ชมหอปริศนาธรรม ดูภาพต่างๆ ก่อนเดินทางไปเที่ยวที่ต่อไป
สวนโมกข์ เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและสถานที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา จัดตั้งโดย ท่านพุทธทาสภิกขุ อยู่ริมทางหลวงหมายเลข 41 บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 134 อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ชื่อเต็มๆคือ สวนโมกขพลาราม หรือ วัดธารน้ำไหล
รวมทั้งได้แวะซื้อไข่เค็มไชยาอันเลื่องชื่อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับมาด้วย จากนั้นได้มีโอกาสไปไหว้พระบรมธาตุไชยาก่อนเดินทางไปสนามบินสุราษฎร์ธานี เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพมหานครโดยสวัสดิภาพ
พระบรมธาตุไชยา เป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร เป็นปูชนียสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมือง ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี อยู่อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
คำขวัญของจังหวัดสุราษฎร์ธานี หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ
วีโคสรุปอันนี้เป็นเพียงประสบการณ์ที่สามารถบรรยายได้ ยังไม่รวมสิ่งอื่นที่สัมผัสได้แต่ไม่ได้มาเล่าให้ฟังกัน ซึ่งท่านผู้อ่านต้องไปสัมผัสสักครั้งกับ เกาะสมุย หมู่เกาะอ่างทอง ทะเลใน ผาจันทร์จรัส ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด เขื่อนรัชชประภา สวนโมกข์ พระธาตุไชยา ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี แห่งนี้นี้เอง
ขอขอบคุณ
#อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง, #เขื่อนรัชชประภา, #เกาะสมุย, #หมู่เกาะอ่างทอง, #ทะเลใน, #ผาจันทร์จรัส, #ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด, #เขื่อนรัชชประภา, #สวนโมกข์, #พระธาตุไชยา, #จังหวัดสุราษฎร์ธานี