Tech

แฮชแท็กคืออะไร ควรใส่เยอะไหม

Share this article

แฮชแท็ก Hashtag เริ่มใช้และแพร่หลายบนทวิตเตอร์ แต่ด้วยการเลือกใช้คำสั้นๆที่โดนและเข้าใจได้อย่างง่ายและรวดเร็ว เพียงนำหน้าเครื่องหมาย “#” แล้วตามด้วยคำหรือวลีที่โดนๆ ด้วยวิธีที่ง่ายจึงทำให้แฮชแท็กเป็นที่นิยมได้อย่างรวดเร็วและถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ยูทูบ ลิงค์อิน พินเทอเรสต์ เป็นตัน แล้วจะมีวิธีการใช้แฮชแท็กอย่างไรให้ได้ผลดีมีประสิทธิภาพกัน

  • แฮชแท็กที่ดีและโดนควรเป็นคำสั้นๆ กระชับ ได้ใจความ จดจำง่าย และไม่ยาวจนเกินไป
  • ไม่ควรใช้แฮชแท็กจำนวนเยอะๆจนเกินไป หรือ ใส่แอชแท็กในทุกคำทุกวลี จำนวนที่เหมาะสมของการใช้นั้น ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เลือกใช้ โดยส่วนมากแล้ว ใช้แฮชแท็กเพียง 1 หรือ 2 จะได้ผลลัพธ์ที่มากกว่าการใช้แฮชแท็กจำนวนเยอะๆ ทั้งนี้ต้องดูว่าเราใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอะไรด้วยถึงจะดีสุด
  • การเลือกคำเฉพาะเจาะจงมาใช้เป็นแฮชแท็ก โดยคำที่เลือกไม่กว้างมากไปหรือแคบจนเกินไปน่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า เพราะการใช้คำแบบกว้างๆ คนจะไม่นิยมใช้เป็นคำในการค้นหา ดังนั้นเลือกคำที่เฉพาะเจาะจงน่าจะดีกว่า
  • การค้นหาโดยใช้แฮชแท็กจะทำให้เห็นว่ามีคอนเทนต์อะไรบ้างที่ใช้แฮชแท็กเดียวกับเรา ทำให้เราทราบทิศทาง แนวโน้ว ของบทความที่เราจะทำว่ามีทิศทางไปทางไหน แนวโน้มเป็นอย่างไรจะได้ช่วยในการวิเคราะห์คู่แข่งและปรับเปลี่ยนให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากสุด
  • ควรเลือกบางโพสที่จะใส่แฮชแท็กที่โดนๆที่จะส่งผลให้คนเข้ามามีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้นแทนที่จะใช้แฮชแท็กในทุกโพส
  • แฮชแท็กมีส่วนช่วยดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้กับเราได้เพียงเลือกใช้แฮชแท็กให้เป็น

จำนวนแฮชแท็กที่เหมาะสมในแต่ละแพลตฟอร์มของโซเชียลมีเดีย

  • Facebook 1-2 hashtag โดย 1 แฮชแท็กที่เป็นกระแสความนิยม และอีก 1 แฮชแท็กเป็นเกี่ยวกับเรื่องที่เราโพส
  • Instagram 5-10 hashtag ได้มากสุด 30 แฮชแท็ก
  • Twitter 1-2 hashtag
  • YouTube 2-3 hashtag
  • LinkedIn 1-2 hashtag
  • Pinterest 2-5 hashtag
  • Tiktok 4-5 hashtag

สรุป การเลือกใช้แฮชแท็กให้ดีและให้โดน น่าจะเป็นวิธีการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ดี โดยเลือกแฮชแท็กที่เป็นกระแสอยู่ตอนนั้นรวมทั้งแฮชแท็กที่เกี่ยวข้องกับโพสที่เราต้องการสื่อ อีกทั้งไม่ใช้แฮชแท็กมากจนเกินไป ทางที่ดีเลือกใช้แฮชแท็กให้พอดีพอเหมาะกับแพลตฟอร์มของโซเชียลมีเดียนั้นๆ เน้นแบบต่อยน้อยๆแต่เน้นหนักๆและโดนๆน่าจะให้ผลดีมากกว่า

อ้างอิง

Loading