แนวคิดทางการเงิน วอร์เรน บัฟเฟตต์
VEKOWORLD.COM | วีโคเวิลด์ดอทคอม
แนวคิดทางการเงินของวอร์เรน บัฟเฟตต์
ก่อนอื่นเรามาตีความหมายแบบตรงไปตรงมากันก่อนว่า แต่ละข้อพูดถึงเรื่องอะไรกันบ้าง?
Excellent Quotes by Warren Buffett
- On Earning: Never depend on single income. Make investment to create a second source.
- On Spending: If you buy things you do not need, soon you will have to sell things you need.
- On Savings: Do not save what is left after spending, but spend what is left after saving.
- On Taking Risk: Never test the depth of river with both the feet.
- On Investment: Do not put all eggs in one basket
- On Expectations: Honesty is very expensive gift. Do not expect it from cheap people.
คำคมที่ยอดเยี่ยมโดย วอร์เรน บัฟเฟตต์
- การหารายได้ ไม่ควรพึงพารายได้จากแหล่งเดียว ทำการลงทุนเพื่อสร้างรายได้แหล่งที่สอง
- การจับจ่าย ถ้าคุณซื้อสิ่งของที่ไม่จำเป็น ต่อจากนั้น คุณจะต้องขายสิ่งของที่มีความจำเป็นออกไป
- การออม ไม่ควรออมหลังจากจับจ่ายใช้สอย แต่ควรออมเงินก่อนการนำไปใช้
- การรับความเสี่ยง ไม่ควรทดสอบความลึกของแม่น้ำด้วยเท้าทั้งสองข้าง
- การลงทุน ไม่ควรวางไข่ทั้งหมดลงในตะกร้าใบเดียว
- ความคาดหวัง ความซื่อสัตย์เป็นของขวัญราคาแพง อย่าไปคาดหวังมันจากคนราคาถูก
แนวคิดทางการเงินของวอร์เรน บัฟเฟตต์ น่าสนใจดี เพียง 6 ข้อ ทำให้เราสามารถเข้าใจหลักการทางการเงินที่สำคัญๆได้อย่างรวดเร็วเลยทีเดียว เดี๋ยวจะขอขยายความเพื่อความเข้าใจที่ลึกซึ้งกันสักหน่อย
ข้อแรก รายได้ควรมีมากกว่า 1 แหล่ง ถ้าเรามีรายได้เพียงแหล่งเดียว ถ้าเกิดรายได้แหล่งนั้นหายไปก็จะทำให้เราไม่มีเงินใช้ในทันที ข้อนี้คือการบริหารความเสี่ยงของรายได้
ตัวอย่าง
- นาย A มีรายได้ 100,000 บาทต่อเดือน จากการทำงานประจำ
- นาย B มีรายได้ 100,000 บาทต่อเดือน จากการทำงานบริษัท 50,000 บาท และ มีรายได้จากงานอิสระอีก 50,000 บาท
เรามาวิเคราะห์กันว่า หากเหตุการณ์เลวร้ายสุดเกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร โดยสวมหมวกสีดำ คิดในแง่ลบให้เต็มที่
- นาย A บริษัทเลิกจ้าง รายได้ 0 บาท ต่อเดือน ถ้าโชคดีได้เงินชดเชย แต่โชคร้ายเจอบริษัทไม่ดี ไม่ได้เงินชดเชยอีก
- นาย B บริษัทเลิกจ้าง รายได้เหลือ 50,000 บาทต่อเดือน จากงานอิสระ
จะเห็นว่า นาย A มีความเสี่ยงมากกว่าเนื่องจากรายได้มาจากแหล่งเดียวกันทั้งหมด แต่ นาย B มีรายได้จากแหล่งที่สอง ทำให้มีเงินเหลืออีก 50,000 บาทต่อเดือนพอช่วยให้รอดในภาวะวิกฤติได้
ข้อสอง บางท่านใช้เงินซื้อของที่ไม่มีความจำเป็นมาเก็บไว้เต็มบ้านไปหมด อาจเพราะโปรโมชั่นทางการตลาด ลด แลก แจก แถม แต่ในความเป็นจริง ไม่ใช่สิ่งของที่มีความจำเป็น จากนั้นเมื่อเงินหมด อาจต้องขายสิ่งของที่มีความจำเป็นออกไป
ข้อสาม การออมเงิน หลายท่านเข้าใจว่า การออมคือเหลือจากการใช้จ่ายแล้วค่อยนำมาออมไว้ แล้วธรรมดาก็ไม่เหลือให้ออม หรือ เหลือน้อยมากๆ ทำให้แทบจะไม่มีเงินออมเลย แนวคิดข้อนี้คือ รับเงินมาให้ออมเงินก่อน เหลือแล้วค่อยนำเงินไปใช้
ข้อสี่ การรับความเสี่ยง ความเสี่ยงคือสิ่งที่คลุมเครือหรือสิ่งที่เรายังไม่รู้ สมมุติว่าเราต้องการข้ามไปอีกฝั่ง โดยมีแม่น้ำหรือลำธารขวางกั้นอยู่ หากเราไม่รู้ว่าแม่น้ำนี้ลึกไหม โดยเอาขาสองข้างหยั่งความลึก ถ้าแม่น้ำลึกเราต้องจมน้ำตายแน่ๆ เพราะฉะนั้นหากจะลองทำอะไรที่มีความเสี่ยงก็ต้องเผื่อทางถอยไว้หน่อยจะดีกว่า
ข้อห้า การลงทุน หากคุณลงทุนไว้ในที่เดียวทั้งหมด ก็หมายความว่า ถ้าไม่ดีก็จะไม่ดีทั้งหมด ดังนั้นไม่ควรวางไข่ลงในตะกร้าใบเดียวกันทั้งหมด การลงทุนต้องมีการกระจายความเสี่ยง เลือกลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีความแตกต่าง หากอุตสาหกรรมนึงตก อีกอุตสาหกรรมนึงจะรุ่ง ทำให้เราสามารถสร้างความสมดุลของรายได้ไปได้โดยตลอด
ข้อหก คนซื่อสัตย์มีราคาแพง ไม่ควรคาดหวังกับคนราคาถูก กล่าวคือ หากเราจะทำการลงทุนให้เลือกลงทุนกับคนที่มีความซื่อสัตย์ ในที่นี่หมายถึง บริษัทที่มีทีมผู้บริหารเป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์ โปร่งใส ตรงไปตรงมา ตรวจสอบได้ มีความน่าเชื่อถือ เพราะเราจะสามารถคาดหวังได้มากกว่า
จะเห็นได้ว่าแนวคิดของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ จับต้องได้ หากเรานำไปประยุกต์ใช้ในเรื่องการเงิน การลงทุน ล้วนแล้วแต่จะเป็นสิ่งที่จะทำให้เรามีความมั่งคั่ง ร่ำรวยกันถ้วนหน้า
บทความที่เกี่ยวข้อง
อ้างอิง